ดูภาพเทียบต้นฉบับของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ข้างๆ ประกอบนะครับ (พอดีผมหาภาพต้นฉบับที่เป็นรูปสี แบบชัดๆ เต็มๆ องค์ไม่ได้น่ะครับ เลยมีแค่เวอร์ชั่นขาว-ดำ และมีเพียงครึ่งตัวอย่างที่เห็น) จะเห็นว่ากฤษณ์วาดได้เหมือนแบบเป๊ะ เหมือนกับเอากระดาษลอกลายวางทาบกับแบบเลยนะเนี่ย (ตกลงลอกจริงๆ เปล่า..? (-_-" ผมเคยเขียนวิจารณ์คนที่ก๊อปงานพี่เหลิมมาแล้วนะครับ ในผลงานของ ป่าน สรุทต์ ลองแวะเข้าไปอ่านได้ครับ
คลิกที่นี่) บอกตามตรงเลยนะครับ..ว่า จริงๆ ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ กับการก๊อปปี้งานคนอื่นแบบเหมือนเด๊ะอย่างงี้ครับ และผมมักจะปฏิเสธคนที่ส่งผลงานมาใน 'วาดเล่นๆ' แต่ดันก๊อปผลงานคนอื่นมาทั้งดุ้น โดยเฉพาะงานพี่เหลิม (เพราะมีหลายคนครับ ที่ก๊อปงานพี่เหลิมส่งมา แต่ผมมักจะปฏิเสธ แล้วตอบกลับไปว่า จะไม่ลงผลงานให้ แต่ขอให้ส่งมาใหม่ ที่เป็นงานของคุณเอง ไม่งั้นเว็บ 'วาดเล่นๆ' คงเต็มไปด้วยงานก๊อป) ซึ่งต้องยอมรับว่า พี่เหลิมเป็นศิลปินไทยที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากๆ ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ แต่เพราะผมเห็นว่า กฤษณ์ส่งผลงานมานานแล้ว ก็เลยลงให้..เผื่อจะได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมให้ฟังด้วยนะครับ"
ก่อนอื่น..ผมขอเล่าเรื่องของผมให้ฟังก่อนนะครับ สมัยผมเป็นนักศึกษาศิลปะ ผมชอบงานของ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต มาก เรียกว่าคลั่งเลยก็ว่าได้ ทำให้ผลงานของผมมีอิทธิพลของ อ.จักรพันธุ์ เข้ามาผสมอยู่มากอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มาวันหนึ่ง ผมได้หอบผลงานที่ผมวาด ไปให้ อ.สน สีมาตรัง ที่ภาควิชาประยุกต์ศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ ม.ศิลปากร ดู ท่านได้กรุณาแนะนำผมว่า "
ให้ปิดหนังสือจักรพันธุ์เสีย แล้วกลับไปหาต้นฉบับ" จากคำแนะนำประโยคสั้นๆ นี้ ทำให้ผมคิดได้ แล้วผมก็เริ่มกลับไป study งานโบราณอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยผมได้เอาหนังสือรวมภาพวาดเล่มงามของ อ.จักรพันธุ์ ไปทับไว้ที่ชั้นล่างสุดในตู้หนังสือ และผลจากการกลับไปหาต้นฉบับ ซึ่งเป็นผลงานของครูช่างดั้งเดิม (ซึ่งก็เป็นครูของทั้ง อ.จักรพันธุ์ และพี่เหลิม ก่อนที่ทั้ง ๒ ท่าน จะพัฒนาผลงานของตนเอง จนมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอย่างในทุกวันนี้ เช่นกันนะครับ) ทำให้ผมมีวันนี้ได้ จนผลงานของผมค่อยๆ พัฒนาจนมีลักษณะคลี่คลายเป็นตัวของตัวเอง โดยไม่ได้ติดกลิ่นใครต่อใครมานะครับ
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมมักจะแนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อให้เป็นแบบฉบับของตัวเองนะครับ หรือหากคุณต้องการเป็นศิลปินคนหนึ่ง (
**แต่..ถ้าอยากวาดแค่เอาหนุกๆ เป็นงานอดิเรกก็ไม่ว่ากันครับ) เพราะถ้าเกิดวันหนึ่ง คุณมีโอกาสได้หอบผลงานของคุณเอง ออกไปจัดแสดงต่อสาธารณชน ผมว่า..คนดูจะต้องพูดประโยคต่อไปนี้แน่ๆ ครับ คือ
๑). วาดไม่สวยเท่าต้นฉบับ
๒). แต่..ถ้าเกิดคุณก๊อปได้เหมือนมากๆ ก็จะบอกกันว่า ตกลงเป็นงานของคุณเอง หรืองานของพี่เหลิมกันแน่..? ผมว่า (ถ้าเป็นผม) ต้องไม่ปลื้มแน่ครับ ถ้าหากเราเป็นได้แค่ "เงา" ของคนอื่น
ผมเองจะไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ ถ้าหากคุณอยู่ระหว่างการศึกษา เป็นเด็กกำลังฝึกหัด ที่เลือกจะคัดลอกหรือก๊อปปี้ผลงาน ของศิลปินคนไหนก็ได้ ที่คุณชื่นชอบ หรือประทับใจ ซึ่งคุณอาจจำเป็นต้องศึกษา เพื่อดูเทคนิคพิเศษในการวาดอะไรต่างๆ ของเค้าก็ได้ แต่..เมื่อคุณคิดที่จะทำงานจริงๆ จังๆ ให้ออกมาเป็นผลงาน ที่บ่งบอกลักษณะเฉพาะตัวของคุณเองจริงๆ แล้ว มีความจำเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับ ที่จะต้องสลัดคราบของศิลปินต้นแบบ (ที่คุณลอก) ออกไปให้ได้ ไม่งั้น..ถ้า (กรณีคุณเป็นศิลปิน) คุณจะเกิดในวงการได้ยาก เพราะคนดู ก็ต้องการมาดูผลงานแท้ๆ ของคุณเองมากกว่า ถ้าจะเปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนพวกนักร้องนะครับ ถ้าเกิดคุณสามารถทำรูปร่างหน้าตา และน้ำเสียงได้เหมือนกับศิลปินดังๆ (ถ้าเป็นของไทย ก็อย่างวง Body slam, โปเตโต้ หรือ ดา แอนโดฟิน) คุณคิดว่า คนฟังอยากจะมาดูคุณร้องเลียนแบบ เย้วๆ ทำท่าทาง น้ำเสียงลูกเอื้อน ได้เหมือนเปี๊ยบเลย หรืออยากจะหันหลังกลับไปดูนักร้องต้นฉบับจริงๆ มากกว่า ลองคิดดูนะครับ
ถ้าจะให้ผมวิจารณ์ภาพนี้ก็ต้องบอกว่า..กฤษณ์วาดได้เหมือนพี่เหลิมเปรี๊ยะเลยครับ (แทบจะทุกกระเบียดนิ้ว) หรืออย่างที่กฤษณ์บอกมาว่า "สำเนา" มานั่นแหละครับ แต่นี่..จะว่าไป ก็เหมือนผมดูผลงานย้อนหลังของกฤษณ์ เมื่อ ๒ ปีที่แล้วเลยนิ ถ้าหากผมจะไล่กลับไปดูผลงาน ที่กฤษณ์ส่งมาตั้งแต่แรกๆ ก็ต้องถือว่า..ผลงานเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว เอาล่ะ.! ผมขอสรุปตามเดิมนะครับ ผมยังเป็นกำลังใจให้กฤษณ์อยู่นะ ขอให้วาดเล่นๆ ให้สนุกครับ
(๓ พ.ค. ๒๕๕๔)