|
| |
'อาร์ท' หนุ่มใหญ่เมืองพระเจดีย์กลางน้ำ ปลาสลิด (บางบ่อ) รสเลิศ ศิษย์เก่านิติศาสตร์ รั้วรามคำแหง ส่งผลงานลายไทยมาร่วมแสดง ๑ ภาพครับ ระเบียง 'วาดเล่น ๆ กับ จิด-ตระ-ธานี' ยินดีที่ได้นำเสนอผลงานอาร์ทครับ
| |
กิติพงษ์ กล่ำกองกูล (อาร์ท) , ๔๓ ปี
มหาวิทยาลัยรามคำแหง (นิติศาสตร์) , จ.สมุทรปราการ
แรงบันดาลใจ : แม่พระตาราขาว สีอะครีลิค ปิดทอง ศิลปะผสมทิเบต + ลายไทย อยากลองเขียนเทพทางเนปาล ทิเบต บ้าง ครั้งแรกยังไม่ลงตัวเท่าไหร่นัก
ส่งผลงานเมื่อ  ๑๗ เม.ย. ๒๕๕๔)
|
|
|
|
|
|
| |
คงเป็นรูปแรกที่วาดแนวทิเบตใช่มั้ยครับ.? แต่ถ้าดูจากฝีมือแล้วค่อนข้างเก๋าเลยล่ะ ไม่ธรรมดาเลยครับ วาดได้ดีทีเดียว ผมรู้สึกชื่นชมคุณอาร์ทนะครับ ที่ถึงแม้จะจบการศึกษาด้านกฎหมายมา แต่ก็มีใจรักในการวาดรูปแบบไทยๆ และพยายามขวนขวาย จนสามารถวาดได้ขนาดนี้ (จริงๆ เว็บ "วาดเล่นๆ" มีผู้ที่ไม่ได้จบสายศิลปะโดยตรง ส่งผลงานมาเยอะมากเลยนะครับ ถ้าหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็น่าจะมากกว่า ๗๐% เลยล่ะครับ ซึ่งหลายๆ คนก็ฝีมือดี จนขนาดเด็กที่เรียนสายศิลปะโดยตรง เห็นแล้ว..ยังต้องอายม้วนต้วนเลยล่ะ)
องค์ตารา เป็นพระโพธิสัตว์ในร่างสตรี ถือกำเนิดจากน้ำตาของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เมื่อพระองค์ทรงมองเห็นว่า เหล่าสัตว์โลกล้วนเต็มไปด้วยความทุกข์ น้ำตาจึงไหลลงมาจนกลายเป็นทะเลสาบ ในทะเลสาบปรากฏดอกบัวอุบัติขึ้น และในดอกบัวนั้น มีพระนางตาราสถิตย์อยู่
องค์ตาราเป็นที่เคารพนับถือมาก ในกลุ่มชาวพุทธวัชรยานสายทิเบต คาดว่าแนวคิดในการนับถือพระนางตารา เริ่มต้นขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๘ และเริ่มนิยมนับถือกันอย่างแพร่หลาย ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๗ โดยมีผู้นับถือมาก ในแถบประเทศเนปาล ทิเบต และมองโกเลีย คำว่า "ตารา" มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า "ข้าม" องค์ตาราเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา ในทิเบตองค์ตารามีอยู่หลายปาง โดยแบ่งออกตามสีพระวรกาย คือ ขาว เขียว แดง และ ดำ
องค์ตาราของคุณอาร์ท คือ "องค์ตาราขาว" หรือ พระจินดามณีจักรตารา พระนางทรงชุดขาวล้วน (ตามตำนาน) เป็นตัวแทนของ "ความกรุณา" พระเนตรมี ๗ ดวง หมายถึง การเฝ้ามองสรรพสัตว์อยู่ตลอดเวลา พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวบาน และทำมุทรา*ไตรลักษณ์
* มุทรา คือการแสดงท่าด้วยพระหัตถ์ (มือ) ว่ากำลังทรงแสดงความหมาย ในเชิงสัญลักษณ์ว่า..กำลังทำอะไร.? แต่เดิมท่ามุทรา ถูกใช้กับเทวรูปปางต่างๆ ที่สร้างขึ้นในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ก่อนที่พุทธศาสนาจะอุบัติขึ้นเสียอีก (-_-" แต่..ต่อมาในภายหลัง เมื่อเริ่มมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นในศาสนาพุทธ (*พระพุทธรูป เริ่มต้นสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก ในศิลปะแบบคันธารราฐ (Gandhara) เมื่อราวๆ ๓๗๐ ปี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว) จึงรับคตินี้มา เพื่อใช้ในการแบ่งปาง ประกอบกับกิริยาทางกายต่างๆ ของพระพุทธรูป (ตามพุทธประวัติ) เพิ่มเติมอีกด้วย
ผลงานใช้ได้นะครับ ดูได้อย่างเพลินๆ เลยล่ะ ขอให้วาดเล่นๆ ให้สนุกครับ (๑๘ เม.ย. ๒๕๕๔)
|
|
|
|
|
|
 |
| |
|
 |
|
| |
|
| |
Create and Maintained by JitdraThanee Copyright © 2008-2014 by JitdraThanee.com, All Rights Reserved. Best viewed 1280x800 pixels. |
|
