พี่หลีกับลูกสาว พี่ปิง
และผม หน้าลานหลวงปู่ดูลย์
ประมาณ ๖ โมงเช้า
|
|
๕. กราบพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่สวนสันติธรรม ในวันอาสาฬหบูชา โดย พ่อไก่อู (๑๗ ก.ค. ๒๕๕๑)
ต้นสัปดาห์ที่ ๓ ของเดือนกรกฎาคม พี่ปิง (ธรรมนันท์) โทรมาชวนว่า "ไก่อู พี่จะไปฟังธรรมหลวงพ่อพฤหัสฯ นี้ จะไปมั้ย?" แทบไม่ต้องคิดอะไรมาก ผมตอบตกลงเลย และวันนั้นยังตรงกับวันอาสาฬหบูชา อีกด้วยครับ
พวกเรานัดแนะกันที่บ้านของพี่หลี (กุลฤดี) แถวๆ ซอยนวลจันทร์ เพื่อจะนั่งรถไปคันเดียวกัน พี่ซ้งธ์ (ธรธร : สามีพี่หลี, บ้านอารีย์รุ่น ๓๐) กับลูกสาว (น้องต้นข้าว) หนูน้อยสดใสอายุ ๕ ขวบ ก็ร่วมเดินทางไปด้วย แน่นอนครับเราออกจากกรุงเทพฯ ราวๆ ตี ๔ บึ่งรถจากมอเตอร์เวย์ ตรงไปยังจุดหมายคือ ศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรม สวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
พวกเราถึงที่หมายประมาณตี ๕ ครึ่ง ประตูวัดยังไม่เปิด แต่ก็มีญาติธรรมท่านอื่นๆ ขับรถมาต่อคิวด้านหลังอีกราว ๓-๔ คัน ก่อน ๖ โมงเช้าสักเล็กน้อย ประตูจึงเปิด คณะพวกเรานำรถเข้าไปจอดในลาน และมุ่งไปที่เป้าหมายแรกคือศาลาฟังธรรม วันนี้มีคนพักปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดหลายคน แถมสองแถวหน้าแรกก็ดูเหมือนจะเต็มซะแล้ว แต่พี่ปิงตาดี เหลือบไปเห็นเบาะว่างแถวหน้าสุดฝั่งขวามือ เหลืออยู่ ๒ ที่พอดี วันนี้ผมกะพี่ปิงก็เลยได้มีโอกาสนั่งฟังธรรมแถวหน้าสุด ส่วนพี่หลีกับสามีได้จองแถวที่สามถัดไปจากเรา (วันนี้มีคนมาฟังธรรมเยอะจนศาลาแทบล้นทีเดียว) ระหว่างฟังธรรมผมรู้สึกเปี่ยมไปด้วยปิติสุข ตั้งแต่เห็นหน้าพระอาจารย์ปราโมทย์เลยครับ (วันนี้ผมไม่ได้ส่งการบ้าน นั่งฟังเฉยๆ) ส่วนพี่ปิง กับพี่หลี ได้ส่งการบ้านด้วย
เดือนนี้มีอยู่เรื่องนึง..ที่ทำให้ผมรู้สึกกังวล ไม่สบายใจ แต่ความที่พอจะหัดรู้จิตดูใจเป็นบ้างแล้ว ทำให้บรรเทาลงไปได้บ้าง ผมเห็นตัวโทสะคือความหงุดหงิดรำคาญใจ และตัวโลภะคือความหวงอาลัยอาวรณ์ แต่บางคราวเผลอไป มันผุดขึ้นมาอีก ผมก็ถูกมันเล่นงานหนัก "จนแทบน่วมไปเลย" พอหวุดหวิดจะเอาตัวไม่รอด จู่ๆ จิตผมก็ระลึกถึงใบหน้าหลวงพ่อปราโมทย์ เห็นท่านยิ้มหวานพูดกับผมอย่างใจดีว่า "ไม่ให้ทำไง ให้รู้สิ ให้รู้..."
พอความรู้สึกตัวเกิด ความกังวลก็ตกไป ความสบายใจเข้ามาแทน พี่ๆ น้องๆ ท่านใดหากเกิดความกังวลใจ จะเอาการระลึกรู้แบบผม ไปเป็นตัวอย่างบ้างก็ได้นะครับ
พ่อไก่อู
|