Learning Basic of traditional Thai Designs with JitdraThanee  
BackNextclose window  
     
 
  การเขียนกระหนกเปลว
บทเรียนที่ ๘ / Lesson 8   Drawing Kranok Plail Design


เมื่อเรานำหางไหลมาประกอบกับกระหนก เราจะเรียกกระหนกนั้นว่า "กระหนกเปลว" เนื่องจากมีรูปทรงเหมือนเปลวไฟ ที่สะบัดเลื้อย พริ้วไหวไปมา โดยรูปทรงของกระหนกเปลวนี้ มีโครงของตัวหางไหลอยู่ แต่ถ้าหากคุณวาด โดยไม่มีโครงของหางไหล กระหนกที่ได้จะแข็ง ไม่สะบัดพริ้วเท่าที่ควร ช่างไทยที่ฝีมือดี ล้วนผ่านการวาดกระหนกชนิดนี้มาอย่างหนักทั้งสิ้น หัวใจของศิลปะไทยคือ ความอดทน ช่างสังเกตและขยันหมั่นฝึกฝนนั่นเอง

After we attach Hang Lai Design with the Kranok Design, it is called "Kranok Plail" because its shape is like the flame which looks winding and movable ("plail" means a flame). The shape of Kranok Plail contains the outline of Hang Lai Design. But if you draw it without the outline of Hang Lai, the drawing you get will be stiff. All skilled Thai artists usually used to practice drawing this design a great deal. The core of Thai art is the patience, observation and practice.


 

ขั้นตอนการเขียนกระหนกเปลว

๑. ให้วาดสามเหลี่ยมมุมฉาก ที่มีขนาดและการแบ่งพื้นที่ เช่นเดียวกับบทเรียนที่ ๕ และ ๖

๒. วาดเส้นโค้งในส่วนของกาบใบ (กาบเล็กๆ ที่เป็นส่วนของการงอกออก ของตัวลายกระหนกเปลว) ในพื้นที่สามเหลี่ยมเล็กๆ มุมซ้ายมือ

๓. วาดเส้นโค้งจากโคนลาย ลากตวัดเป็นส่วนหัวของตัวกระหนก และลากเส้นลายมาเรื่อยๆ สะบัดเส้นให้เลื้อยเป็นเปลว จนถึงยอดลาย และลากให้เลื้อยกลับ โดยพยายามสังเกตทิศทางของเส้น ให้วาดเลื้อยไป เหมือนกับหางของงู และจบลงด้วยการตวัดเส้นโค้งกลับ มาที่กาบใบ

 

Instructions in drawing Kranok Pail Design

1. Draw a right-angled triangle, the size and the division of area is the same as that indicated in Lesson 5 and 6.

2. Draw a curved line in the additional leaf (Kranok Plail will be extended from this part) in the small triangle on the left.

3. Draw a curved line from the additional leaf and draw it until it reaches the middle of the main triangle and whip the line to make it curl like the flame. Then pull the line downward. Please note that the line will be winding like the movement of the snake. The line will be drawn to end up at the additional leaf.

         
  ๔. ลากเส้นกึ่งกลางหนึ่งเส้น ให้คดโค้งไปตามรูปจนถึงยอดลาย

๕. วาดกระหนกเปลวที่พลิกกลับ ทางด้านซ้าย เช่นเดียวกับบทเรียน ที่ผ่านมา วิธีการวาด ใช้เช่นเดียวกับการวาดด้านขวา
  4. Draw a line in the middle of the base of the triangle. The line must be winding along the shape of the design.

5. Draw Kranok Plail Design from the reverse side, using the same instructions as the one drawn from the right (see item 1 - 4).


ข้อควรสังเกต

๑. ให้สังเกตว่าตัวกระหนกเปลวนี้ มีโครงของตัวหางไหลอยู่ ถ้าคุณสามารถวาดลายหางไหล ได้จนชำนาญดีแล้ว ก็จะรู้ได้ในทันทีว่า เราสามารถตวัดส่วนหัว ของตัวกระหนกเพิ่มออกเพียงนิดเดียว (จากโครงหางไหลเดิม) ก็จะสามารถวาดตัวกระหนกเปลวได้แล้วครับ
๒. ในส่วนของลายกาบใบ สามารถวาดก่อนหรือหลังก็ได้ครับ หากคุณถนัดที่จะวาดตัวกระหนกก่อน และวาดกาบใบทีหลัง ครอบปิดตัวกระหนกเปลวอีกที ย่อมได้ ไม่มีการผิดกติกาใดๆ ทั้งสิ้นครับ
๓. ผมมักจะย้ำเสมอว่าให้คุณหมั่นฝึก อย่างน้อยๆ ก็ ๑๐๐ ตัวขึ้นไป ห้ามบ่น ห้ามอู้..นะครับ ผมมั่นใจว่า ถ้าคุณตั้งใจ ความสำเร็จต้องเป็นของคุณแน่ครับ


Remarks

1. Please note that Kranok Plail Design contains the outline of Hang Lai in it. If you are able to draw Hang Lai Design skillfully, you will know instantly that you can whip the line at the top of the design just a little bit. Then you can draw Kranok Plail Design.
2. The detailed design of the additional leaf can be drawn before or after drawing Kranok Design.
3. I always emphasize that you should draw more than 100 design - - don't complain and don't be lazy. When there is a will, there is a way.


to top


 
 
to top
 
 
Histats Created: Mon, 6 Dec.2010