นมัสการหลวงพ่อทองคำ เยี่ยมชมศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ณ วัดไตรมิตร

วันก่อน (พุธที่ 13 ก.ค. 2559) ผมแวะไปทำธุระที่วัดไตรมิตร ระหว่างการเดินทางบนทางด่วน ฝนก็เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา (ตรงกับสำนวนฝรั่งว่า It rains cats and dogs. แปลว่า ฝนตกหมาและแมว1) จนแทบไม่เห็นผิวถนน มีแต่ละอองน้ำเล็กๆ สีขาวๆ ฟุ้งกระจายเต็มไปหมด (และเป็นอีกวันหนึ่ง ที่รถติดหนักมากใน กทม. แต่..คนกรุงเทพฯ คงชินกันแล้ว หลังสื่อต่างชาติจัดอันดับ ให้เป็นเมืองที่รถติดที่สุดในโลกประจำปี 20162 สดๆ ร้อนๆ น่าภาคภูมิใจดีแท้ (ฮา)

หลังเสร็จธุระเลยถือโอกาสเยี่ยมชม “ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช” ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย 4 ชั้นที่สวยอลังการมาก

แต่คราวนี้ผมเดินชมแบบละเอียด แทบทุกซอกทุกมุม (หมดเวลาไปเป็น ชม.) เนื่องจากคราวก่อน มีโอกาสได้รับคัดเลือก ให้เป็นส่วนหนึ่งของ Museum Academy รุ่นที่ 1 จัดโดย Museum Siam ทำให้การเดินชมในครั้งนี้ เต็มไปด้วยการเก็บรายละเอียด (จับผิด..ล้อเล่นๆ เริ่มคิดแบบคนทำพิพิธภัณฑ์นั่นเอง) ว่า…เขามีแนวคิดอย่างไร เตรียมข้อมูล/ข้าวของยังไง การจัดช่องทางเดินสำหรับผู้เข้าชม บรรยากาศโดยรวม การจัดแสงไฟ และสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ประกอบ และท้ายสุดต้องการนำเสนออะไรต่อผู้เข้าชม (กลายเป็นแบบนี้ไปแระผม…ฮา)


ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยร่วมสมัยที่สวยงาม ดูดี มีเสน่ห์ ด้วยข้อมูลจัดแสดงที่น่าสนใจ บอกเล่าเรื่องราวย้อนหลังกลับไปในสมัยที่ชาวจีนโพ้นทะเล เริ่มต้นอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย (ต้นตระกูลผม และอีกหลายๆ ท่านที่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนนะครับ) ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เรื่อยมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน  อธิบายเหตุผล..ทำไมชาวจีนอพยพ ถึงมองเมืองไทยว่า… เป็นดินแดนแห่งความหวัง ที่ดีกว่าบ้านเกิดเมืองนอนของตน และการต้องเผชิญกับความยากลำบากต่างๆ ระหว่างการอพยพ และการจะเอาตัวรอดอย่างไรในแผ่นดินใหม่ รวมถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหมู่ชาวจีนผู้ยากไร้ แต่บางตระกูลก็ฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จ สามารถตั้งตัวเป็นตระกูลเจ้าสัวที่มั่งคั่งได้ มีการอธิบายไล่ให้ดูเป็นลำดับๆ ในแต่ละยุค (มีถอดความออกมาเป็นตัวหนังสือ ให้อ่านเยอะมากๆ ครับ) ประกอบกับหุ่นที่จัดแสดง และสื่อทันสมัยต่างๆ

แต่สื่อ Multimedia ที่ผ่านการใช้งานมาหลายปี ตอนนี้กลับเสียหลายจุด ทีวีบ้าง โปรเจ็คเตอร์บ้าง (ยังไม่มีคนซ่อม) ใช้งานไม่ได้เอาดื้อๆ อ้าวววว……. ทำให้เสียอรรถรสในการชมไปมิใช่น้อย เพราะ (ดัน) เกี่ยวกับเรื่องราวต่อเนื่อง ที่เล่าปะติดปะต่อกันภายในพิพิธภัณฑ์หลายจุด

คนไทยสามารถเข้าชมได้ฟรี! ไม่เสียสตางค์…. ส่วนชาวต่างชาติต้องซื้อ Ticket ทั้งๆ ที่วันนี้ฝนตกหนัก ท้องฟ้าไม่ค่อยแจ่มใส เมฆป็นสีเทาขมุกขมัว แต่คนเยี่ยมชมก็ยังมาก ทั้งฝรั่ง ทั้งแขก ทั้งทัวร์จีน ที่เห็นๆ อยู่ เฉพาะช่วงที่ผมเดินดู ก็น่าจะหลักร้อยคน

ชมเสร็จแล้ว..ต้องไม่พลาดไฮไลท์ คือชั้นบนสุดของพระมหามณฑปฯ (ชั้น 4) ซึ่งประดิษฐาน “หลวงพ่อทองคำ” (ที่ชาวบ้านเรียก) หรือชื่อองค์พระอย่างเป็นทางการคือ “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” ที่ กินเนสส์บุ๊ค (Guinness Book of World Records) บันทึกว่าเป็นศิลปวัตถุที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก (ว๊าว.ว.ว.ว… อาจจะประเมินค่ามิได้นั่นแล) เพราะไม่เพียงแต่เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ (หน้าตักกว้าง 6 ศอก 5 นิ้ว (ประมาณ 2.5 เมตร) สูงจากฐานถึงพระเกตุเมาฬี 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 5 ตันครึ่ง) ที่หล่อขึ้นจากทองคำแท้ทั้งองค์แล้ว ยังมีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เพราะเป็นปฏิมากรรมที่ทำขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัยนั่นเองครับ

พ่อไก่อู


1 อ้าว…แล้วหมาแมว มาเกี่ยวอะไรกับสำนวนฝรั่งนี้ด้วย? ตรงนี้ต้องพาย้อนกลับไปยุคโบราณ สมัยที่ชาวอังกฤษยังมุงหลังคาด้วยหญ้า หรือฟาง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแมวๆ หมาๆ ที่มักจะขึ้นไปนอน เพราะมันอุ่นนั่นเอง ทีนี้พอฝนตกลงมาหนักๆ หมาแมวที่อยู่บนหลังคาก็จะลื่นไถล ตกลงมาพร้อมกับเม็ดฝนด้วย พอชาวบ้านเห็นก็จะพูดกันว่า แหม! วันนี้…ฝนตก จนแมวและหมา ตกลงมาด้วยเลยนะ

2 ทอมทอม (TomTom) ผู้ผลิตระบบนำทางจีพีเอส (GPS) ชั้นนำของโลก ประกาศว่า กทม. ครองแชมป์อันดับ 1 เมืองที่รถติดที่สุดในโลกประจำปี 2016 โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน (หลังเลิกงาน) ส่วนอันดับรองจากเราคือ
อันดับ 2 นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อันดับ 3 เม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงประเทศเม็กซิโก

0 comments on “นมัสการหลวงพ่อทองคำ เยี่ยมชมศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ณ วัดไตรมิตรAdd yours →

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *