Baan Aree'26


Fun Learning traditional Thai designs with JitdraThanee's Logo

        'บิ๊ก' ขาประจำที่มีผลงานมากที่สุดในระเบียง วาดเล่นๆ กับ จิด-ตระ-ธานี ครั้งนี้ 'หนุ่มบิ๊ก' ส่งผลงานลายไทยงามๆ มาให้ชมเพิ่มเติมอีก ๒ ภาพครับ ระเบียง 'วาดเล่น ๆ กับ จิด-ตระ-ธานี' ยินดีที่ได้นำเสนอผลงานของ 'บิ๊ก' ครับ

 
อรรถนิติ ลาภากรณ์ (บิ๊ก) , ๓๑ ปี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (คลอง๖) , จ.ปทุมธานี

แรงบันดาลใจ : ภาพ "สตรีผู้มีรัก ๒"
ภาพนี้ผมใช้ปากกาเขียนบนกระดาษครับ ผมเขียนในรายการ "สอนศิลป์" และมีขั้นตอนมาให้เพื่อนๆ ดูวิธีเขียนด้วยครับ

ส่งผลงานเมื่อ ๒๖ เม.ย. ๒๕๕๔)
 
 






Big's portrait


   

59
123456789101112131415161718192021222324252627282930313233
select arrow
3435363738394041424344464748495051525354555657585960


  อื้อหือ...ต้องถือว่าบิ๊กนี่ เป็นหนุ่มที่วาดภาพผู้หญิง ได้หวานหยดย้อยเอามากๆ เลยนะครับ ผมดูแล้วยังเคลิ้มเลย เส้นสายดูนุ่มนวล อ่อนหวานเอามากๆ จะหวานไปถึงหนาย...ฮ้า ^^.. เดี๋ยวแฟนคลับบิ๊กก็คงตามมาเม้นท์กันตรึม อ้อ...ภาพร่างขั้นตอนการวาดรูปนี้ ผมจะนำมาลงเพิ่มให้ในครั้งต่อไปนะครับ

    อ้า...เห็นภาพนี้ของบิ๊กแล้ว เลยมีเรื่องอยากจะเล่าแถมๆ ให้ฟังกันหน่อยนะครับ (ข้อคิดจากธรรมะ เหมือนเดิมครับ..เย้ !) แบบว่า...ตั้งใจขัดคอ อารมณ์เคลิ้มๆ จากการชมภาพนี้ ของทุกๆ คนเลยล่ะ...อิอิ จริงๆ ตัวผมเองก็จัดว่า น่าจะ..เข้าอยู่ในข่ายนี้เหมือนกันนะ มาฟังกันเลยดีกว่านะครับ...^.^

    สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน ใกล้กับกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น พ่อบ้านนักฟ้อนรำ (นฏคามณี) นามว่า "ตาลบุตร" ผู้มีอาชีพร้องรำทำเพลง เพื่อให้ผู้คนเพลิดเพลิน มีความสุข ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจนถึงที่ประทับ และทูลถามพระองค์ว่า "ตนเองเป็นศิลปิน นักฟ้อนรำ เคยได้ยินคำกล่าว ของครูบาอาจารย์นักฟ้อนว่า เมื่อตายแล้ว (คติสัมปรายภพ) จะได้ขึ้นสวรรค์เป็นสหายของเทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระพุทธองค์ทรงมีความเห็นว่าอย่างไร..?" พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไม่ให้เขาถามถึง ๒ ครั้ง แต่เขาก็ยังเพียรถามอยู่ จนครั้งที่ ๓ พระพุทธองค์จึงตรัสตอบไปว่า "หลังจากตายแล้ว เขาจะตกนรกชื่อว่า ปหาสะ หรือ เกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน" เมื่อหนุ่มนักฟ้อนได้ฟังดังนั้น ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ได้แต่ร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้น และทูลต่อไปว่า "เขาได้ฟังมาจากบรรพชน นักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์ ซึ่งล่อลวงให้เขาหลงเข้าใจว่า นักฟ้อน นักเต้นรำคนใด ที่ทำให้ผู้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อกายแตกตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชื่อปหาสะ (แปลว่า ร่าเริง สนุกสนาน)" พระพุทธเจ้าจึงตรัสให้เหตุผลไปว่า "ปกติ มนุษย์โดยทั่วๆ ไป ก็มากไปด้วย ราคะ โทสะ โมหะ อยู่แล้ว การกระทําของท่าน เป็นการรวบรวมซึ่งธรรม ที่จะยิ่งไปเพิ่มพูน ราคะ โทสะ โมหะ แก่พวกเขาให้มากขึ้นไปอีก และตัวท่านเองก็ยังมัวเมา ยังเพลิดเพลิน หลงอยู่ในความประมาทเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านจะไม่ไปอบายได้อย่างไร เราจึงกล่าวว่า บุคคลผู้มีความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) เช่นนี้ ย่อมจะเข้าถึงคติ ๒ อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง"
    เมื่อนักฟ้อน ได้ฟังคำอธิบายโดยละเอียดเช่นนั้น เขาจึงกล่าวสรรเสริญพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าว่า แจ่มแจ้งยิ่งนัก ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป แล้วขอถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต จากนั้นจึงได้อุปสมบทในสํานักของพระผู้มีพระภาคเจ้า ต่อมาได้บําเพ็ญเพียร หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว มีใจแน่วแน่ ไม่ประมาท จนในไม่ช้า ก็ได้สําเร็จเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง

    ข้อความนี้ปรากฎอยู่ใน "ตาลปุตตสูตร" ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค

    อ่านแล้วรู้สึกหนาวๆ สันหลังกันมั้ยครับ.? เพราะอาชีพประเภทศิลปิน นักแสดง ที่ทำให้ผู้คน ต้องหลงมัวเมาใน ราคะ โทสะ โมหะ หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม ท้ายที่สุดก็คือ ๑). กำเนิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน (เดียรัจฉาน, เดรัจฉาน, ดิรัจฉาน แปลว่า "ขวาง" หรือ สัตว์ที่มีร่างกายโดยขวาง) หรือ ๒). นรกปสาหะ ชื่อนรกนี้ ตามคัมภีร์อรรถกถา สารัตถปกาสินี (แต่งโดย พระพุทธโฆษาจารย์) แปลความหมายไว้ว่า "นรกรื่นเริง" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในอเวจีมหานรก สัตว์นรกเหล่านี้ จะแต่งกายเหมือนกับนักฟ้อน นักแสดง และการตกนรกของเขา ก็เป็นการแสดง การฟ้อน การขับร้อง อยู่ในส่วนหนึ่งของนรกอเวจีนั่นเอง"
    หูย...น่าขนลุก ดีมั้ยครับ.? จริงๆ สาระก็คือ หากนักแสดงผู้นั้น ยังเป็นผู้หลงมัวเมา ด้วยความขาดสติ ไปตามลีลา ท่วงทำนองในการแสดง ดอกแรกก็คือ จะทำให้ตัวเอง เปียกชุ่มโชกไปด้วย ราคะ โทสะ โมหะ มากกว่าคนปกติ ดอกที่สองก็คือ จะทำให้ผู้ชม หลงมัวเมาในราคะ โทสะ โมหะ หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมซะอีก เรียกได้ว่าเอากัน ๒ เด้งเลย
    เพราะฉะนั้นหากยังกระทำตัวเองให้ "หลง" มัวเมาอย่างขาดสติ (จริงๆ แล้ว ผมว่า..ไม่ว่าอาชีพใดๆ ถ้ายังขาดสติ หรือยังหลงอยู่ ก็เป็นเหมือนๆ กันนะครับ) แต่..นักแสดงเหล่านี้ โดยสายอาชีพของเขา เหมือนกับเป็นการเร่ง หรือเพิ่มดีกรีความรุนแรงของความหลง ให้ดับเบิ้ลหลง มากขึ้นกว่าเดิมไปอีกหลายๆ เท่าตัว (เพราะคนทั่วๆ ไปก็หลงอยู่แล้ว) จุดหมายปลายทางก็คืออบายภูมิ นั่นเองครับ

    สงสัยว่า..ผมคงกำลังขัดความสำราญใน "ความเคลิบเคลิ้ม ชวนให้หลงใหล" ในการชมภาพนี้ของบิ๊ก อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวนะครับ...อิอิ อ่ะ..รีบหลบก่อนดีกว่า ^^.. ขอให้บิ๊กวาดเล่นๆ ให้สนุกครับ (๒๘ เม.ย. ๒๕๕๔)
 
 

 


 
 
 

 
     


 
Histats.com, Created : 7 Dec.2010
   
  Create and Maintained by JitdraThanee Copyright © 2008-2014 by JitdraThanee.com, All Rights Reserved. Best viewed 1280x800 pixels.